นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่าย ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลเองยอมรับว่าประชาชนยังไม่เข้าใจเรื่องธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ขณะที่ประเทศมีปัญหาเร่งด่วนอื่นๆ มากมาย จึงไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องเร่งผลักดันร่างกฎหมายนี้ที่อาจกลายเป็นฟืนไฟจุดความขัดแย้งในสังคม
ดร.วศิน พิพัฒนฉัตร จากเครือข่ายนักสาธารณสุข เสนอความกังวลเรื่องโครงสร้างการบริหารที่มีลักษณะรวมศูนย์ โดยไม่มีองค์กรรับผิดชอบต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่สังคม หรือการจัดสรรกองทุนเยียวยา นอกจากนี้ยังชี้ว่าประเทศไทยมีดัชนีคอร์รัปชันและความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูง
นางสาวนัยนา ยลจอหอ ประธานชุมชนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม แสดงความกังวลเรื่องหนี้สินครัวเรือนที่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเชื่อว่าผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าครอบครัว การติดพนันจะส่งผลกระทบต่อความรุนแรงในครอบครัวและชุมชน รวมถึงความกังวลเรื่องพนันออนไลน์ที่อาจมอมเมาเด็กเยาวชนและนำไปสู่ปัญหายาเสพติดและการค้าประเวณี
เครือข่ายประกอบด้วยภาคส่วนต่างๆ ทั้งเด็กและเยาวชน ครอบครัว ชุมชน แพทย์ ศาสนา ครูอาจารย์ นักกฎหมาย สื่อมวลชน และภาคประชาสังคม ยืนยันจุดยืนว่า "ต้องถอน ไม่ใช่แค่ถอย" โดยเห็นว่าร่างกฎหมายทั้งสองฉบับไม่อาจเดินหน้าต่อไปได้บนความเสี่ยงต่อความไม่เข้าใจและความไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนส่วนใหญ่