จากการที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยประธานกรรมการและผู้อำนวยการ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า จะทยอยเพิ่มสลากดิจิตัลเรื่อย ๆ เริ่มที่ 23 ล้านใบในงวดนี้จนถึง 30 ล้านใบในปี 2567 ทั้งยังมีแนวคิดจะให้มีการเติมสลากระหว่างงวดในงวดที่สลากดิจิตัลขายดีอีกครั้งละ 1 ล้านใบ นอกจากนี้ยังจะปรับรูปแบบการขายสลากดิจิตัลโดยเพิ่มช่องทางการจำหน่าย ให้ผู้ขายสามารถเดินขายสลากแบบแผงสลากบนไอแพด และโทรศัพท์มือถือได้ ขณะเดียวกันก็จะทดลองออกสลากตัวเลข 3 หลัก หรือ N3 เพื่อทดสอบช่องทางการจำหน่าย การกำหนดราคาขาย รวมถึงเงินรางวัลที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ซื้อให้มากที่สุด ในกลางปีนี้เช่นกัน และยังมีไอเดียจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อาจจะออกรางวัลถี่มากกว่า 15 วัน เช่น ทุก3วันหรือทุก ๆ วัน เพื่อมาสู้กับหวยใต้ดิน เว็บหวยออนไลน์ที่อิงผลหวยเพื่อนบ้าน รวมถึงการพนันออนไลน์
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า “อยากให้ทางสำนักงานฯ เพลา ๆ แนวคิดดังกล่าวไว้บ้าง ต้องไม่ลืมว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นการพนันโดยรัฐ ควรหรือไม่ที่รัฐจะคิดทำ “การพนันแบบสะดวกซื้อ” (convenience gambling) ตามแนวคิดนี้ เพราะผลที่ตามมาคือจะทำให้ประชาชนซื้อสลากมากขึ้นและไม่ได้ทำให้การเล่นหวยใต้ดินลดลงมากอย่างที่คิด ผลสำรวจทางวิชาการยืนยันว่า ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาที่มีการพิมพ์สลากเพิ่มจาก 36 ล้านใบมาเป็น 100 ล้านใบได้ทำให้คนไทยซื้อสลากมากขึ้น หนึ่งคือจำนวนประชาชนผู้ซื้อสลากขยายตัวขึ้นเฉลี่ยปีละเกือบ 1 ล้านคน จำนวนหนึ่งคือเด็กและเยาวชน สอง การซื้อสลากโดยเฉลี่ยต่อคนต่อครั้งก็เพิ่มมากขึ้น จากค่าเฉลี่ย 1 คนเคยซื้อไม่เกิน 2 ใบกลายเป็นเกือบ 5 ใบ และที่บอกว่าจะทำให้หวยใต้ดินลดลงก็ไม่ใช่ เพราะการสำรวจล่าสุดที่ผ่านมาหวยใต้ดินก็เติบโตแทบจะในอัตราเดียวกันกับสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ราว ๆ 8% เพราะความจริงคือคอหวยเกิน 70% ซื้อทั้งหวยรัฐบาลและหวยใต้ดิน ฉะนั้น ที่คิดว่าเพิ่มหวยรัฐเพื่อมาพิฆาตหวยใต้ดินจึงเป็นความคิดที่ผิด และอยากให้รัฐบาลทบทวนแนวคิดการเพิ่มจำนวนสลากดิจิตัลไปเรื่อย ๆ นี้ ในทางกลับกันรัฐควรกำหนดเพดานที่ชัดเจนว่าควรมีสลากเท่าไรที่ไม่ส่งผลในการกระตุ้นให้ประชาชนเสียเงินกับมันจนเกินไป ที่ผ่านมาโฆษกของบอร์ดสลากเคยพูดหลายครั้งว่าอยู่ที่ไม่เกิน 100 ล้านใบ ซึ่งยังอาจเป็นเพดานที่สูงเกินไปด้วยซ้ำ และหากต้องการเพิ่มจำนวนสลากดิจิตัลให้ประชาชนซื้อสลากตามราคาได้มากขึ้น ก็ควรไปหาทางผ่องถ่ายสลาก 80 ล้านใบให้เข้ามาขายในแพลตฟอร์มดิจิตัลมากกว่า เพราะช่วยแก้ปัญหาสลากใบราคาแพงให้ถูกลงได้ทันที ไม่ใช่ไปเลือกวิธีเพิ่มจำนวนสลากดิจิตัล ซึ่งเป็นการตีเนียนหารายได้เพิ่ม”
“ยิ่งเมื่อหันมามองแนวคิดการออกสลากรูปแบบใหม่ ๆ ด้วยแล้วยิ่งดูจะไปกันใหญ่ เพราะหนึ่ง สลากN3 ดูแล้วมีทีท่าว่าจะสู้ไม่ชนะหวยใต้ดิน เพราะไม่มีจุดแข็งอะไรที่เหนือกว่า ทั้งด้านราคาและรางวัล การจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาสู้กับจ้าวตลาดเดิม โดยไม่มีจุดขายที่แตกต่าง โดดเด่น และโดนใจผู้ซื้อ มีแต่จะทำให้สลาก N3 อยู่ในฐานะเป็นผู้ตามในตลาดมากกว่าจะเป็นผู้นำ และหวังได้เพียงการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้กับรัฐบาลเท่านั้น สองหากสำนักงานฯมีความคิดจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สะดวกซื้อมากกว่านี้อีก ทั้งในด้านการเข้าถึง และเพิ่มความถี่ในการออกรางวัลเป็นทุก 3 วันหรือทุก ๆ วัน ยิ่งจะเป็นการพาออกทะเลไปกันใหญ่ เพราะจะซ้ำรอยเดิม คือ สิ่งที่อ้างว่าเป็นปัญหา อย่างการเล่นพนันหวยเพื่อนบ้านและพนันออนไลน์ก็จะไม่ลดลง และกลับจะยิ่งนำพาให้คนไทยใช้เงินใช้เวลากับการพนันที่รัฐจัดให้มากขึ้นไปทุกที ๆ”
“คำถามที่อยากฝากถึงรัฐบาลและสำนักงานสลากฯ ก็คือ การพนันโดยรัฐควรมีเพื่อจูงใจให้ประชาชนเล่นพนันอย่างเหมาะสมในระดับเป็นสันทนาการ ไม่ไปหลงเป็นเหยื่อให้แก่การพนันผิดกฎหมายที่เอารัดเอาเปรียบ หรือรัฐควรทำการพนันเพื่อหวังมาเอาเงินจากประชาชนในทำนองเดียวกันกับที่พนันผิดกฎหมายทำ ความรับผิดชอบของรัฐควรอยู่ที่ไหน” นายธนากรกล่าว