MAN IN THE NET นักกีฬาติดพนัน



“ทำไมนักกีฬาถึงมีความเสี่ยงติดการพนันมากกว่าคนอื่น?”

  • หน่วยงานด้านการช่วยเหลือผู้ติดพนันในสหรัฐอเมริกา (Delamere) รายงานว่า “นักกีฬามีโอกาสประสบปัญหาจากการพนันสูงกว่าคนทั่วไปถึง 4 เท่า”
  • สมาพันธ์นักฟุตบอลอาชีพ (Professional Player’s Federation : 2014) รายงานผลการศึกษาพบว่า ร้อยละ 6.1 ของนักฟุตบอลจะมีปัญหาติดพนัน เทียบกับการติดพนันของประชาชนทั่วไปที่ร้อยละ 1.9 นั่นคือ มากกว่ากันราว 3 เท่าตัว
  • นิตยสาร TIME รายงานว่า 1 ใน 10 ของนักศึกษากีฬามีอาการ “เสพติดพนัน”
  • ปี 2014 งานวิจัยในสหราชอาณาจักร เกี่ยวกับการพนันของคนกีฬาพบว่า

o 6%  มีปัญหาจากการพนัน

o 14% มีความเสี่ยงปานกลาง

o 19% มีความเสี่ยงต่ำ

 

ตัวอย่างอดีตนักฟุตบอลชื่อดัง ใน English Premier League ที่มีปัญหาติดการพนัน

1.Peter Shilton (อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษชุดฟุตบอลโลก 1986)

2.Paul Merson (ทีมชาติอังกฤษ และ Arsenal)

3.Michael Owen (ทีมชาติอังกฤษ / Liverpool / Real Madrid / Manchester United)

4.Wayne Rooney (ทีมชาติอังกฤษ / Manchester United)

5.Dietmar Hamann (ทีมชาติเยอรมัน / Liverpool)

6.Kieth Gillespie (ทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ / Manchester United / Newcastle United)

7.John Hartson (ทีมชาติเวลส์ / Arsenal)

8.Andros Townsend (ทีมชาติอังกฤษ / Tottenham Hot Spur / Everton)

9.Scott Davies (Reading /Aldershot Town)

10.Michael Chopra (Cardiff City / Sunderland)

11.Joey Barton  (Newcastle United / Manchester City)

12.Matthew Etherington  (Tottenham Hot Spur / West Ham United)

 

“พนันไม่เคยปรานีใคร ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาชนิดใด ก็ติดได้ทุกราย”

 

ตัวอย่าง 13 นักกีฬาอาชีพที่มีปัญหาการพนัน

 

     1.John Daly (โปรกอล์ฟ)

หลังจากได้รับรางวัล 750,000 ดอลลาร์จากการชนะเลิศการแข่งขัน World Golf Championship Daly มุ่งสู่ลาสเวกัส และสูญเงินหลายล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงกับเครื่องเล่นสลอต   

Daly ใช้เวลา 15 ปีต่อสู้กับการพนัน สล็อตและแบล็คแจ็ค  เคยอยู่กับมันต่อเนื่อง 2 วันโดยไม่พัก  เขาสูญเสียเงินมหาศาลไปกับมัน และยอมรับว่า “เขาติดการพนัน”

 

  1. Rick Tocchet (นักฮ็อกกี้น้ำแข็ง)

อดีตนักฮ็อกกี้มืออาชีพ ตกเป็นข่าวว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับวงการพนันม้าแข่งผิดกฎหมาย โดยมีส่วนร่วมสมคบกับการโฆษณาการพนัน   เขาถูกลงโทษห้ามแข่งเป็นเวลา 2 ปี

หลังจากพ้นโทษ เขากลับมาเป็นผู้ช่วยโค้ชให้กับทีม Tampa Bay Lightning และเป็นโค้ชให้กับ Arizona Coyotes ในปัจจุบัน   และละทิ้งอดีตกับการพนันไว้เบื้องหลัง

 

  1. Pete Rose (นักเบสบอล)

ตำนานนักเบสบอลล์  ผู้พิชิต 3 ซีรีส์ระดับโลก และติดทีมรวมดาราถึง 17 ครั้ง    แต่โรสกลับต้องต่อสู้อย่างหนักกับนิสัยชอบพนันของตนเอง   เขาเคยเล่นพนันสูงถึงวันละ 10,000 ดอลลาร์ทุก ๆ วัน 

เขาถูกกล่าวหาว่า ทายผลการแข่งขันทีมเบสบอลล์ที่ตนเป็นผู้จัดการ  แม้เขาจะปฏิเสธแต่ก็ถูกลงโทษแบนตลอดชีวิต เขาเป็นผู้เล่นคนแรกและคนเดียวที่ถูกถอดออกจากหอเกียรติยศเบสบอลล์  

โรสต้องเข้ารับการบำบัดการติดพนันในเวลาต่อมา 

 

  1. Charles Barkley (นักบาสเกตบอล)

ติดทีม NBA All-Star ถึง 11 ครั้ง เคยได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP – Most Valuable Player) ในปี 1993    เขาเริ่มมีปัญหาการพนันหลังจากเลิกเล่นอาชีพในปี 1997    ในปี 2006 เขาให้สัมภาษณ์กับช่องกีฬาดัง ESPN ว่าเขาสูญเงินกับการพนันกับกาสิโนสูงถึง 10 ล้านดอลลาร์  เพราะมั่นใจว่า “เอาอยู่” และเชื่อว่าตนเองไม่ได้ติดการพนัน 

ในปี 2008 บาร์คลีย์ถูกจับกุมจากปัญหาหนี้สิน

 

  1. Floyd Mayweather (นักมวย)

บุคคลผู้ขึ้นชื่อเรื่องการจ่ายเงินเพื่อชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า ซื้อรถราคาแพง แต่งตัวหรูหรา    หลังจากเลิกชกมวยอาชีพในปี 2017 เขาหันมาเล่นพนันทายผลอเมริกันฟุตบอล

เมย์เวเธอร์ต้องเข้ารับการบำบัดการติดพนัน ด้วยอาการไม่สามารถห้ามตัวเองในการเล่นพนันด้วยจำนวนเงินที่สูงมากเกินไป  และเมื่อแพ้พนันก็พยายามจะเอาคืน  

เมย์เวเธอร์ถูกจำคุกจากคดีทำร้ายร่างกายภรรยา อันมีผลสืบเนื่องมาจากอาการติดพนันเรื้อรัง

 

  1. Michael Jordan (นักบาสเกตบอลล์)

เขาคือตำนานผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลแห่งวงการบาสเก็ตบอลล์ คว้าแชมป์ NBA ถึง 6 สมัย  เป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวสูงสุด  ถูกพบว่าเขาเสียเงินเพื่อเล่นโปกเกอร์อย่างมาราธอนในกาสิโนสูงถึง 165,000 ดอลลาร์   นิสัยนี้ติดมาจากสมัยที่เขายังคงเป็นนักเรียน

จอร์แดนเคยสารภาพเรื่องการพนันของเขาต่อเพื่อนนักบาสระดับโลกด้วยกัน  เขาพูดว่า เขาสามารถจบปัญหาการพนันเมื่อไรก็ได้  แต่ไม่เคยมีข่าวว่าเขาทำได้จริง

 

  1. Art Schlichter (นักอเมริกันฟุตบอล)

การติดพนันของอดีตควอเตอร์แบ็ค ทีม Indianapolis Colt เห็นผลหลังจากเขาเลิกอาชีพนักฟุตบอล  เขาติดหนี้ 700,000 ดอลลาร์จากการพนัน และถูกควบคุมตัวในข้อหามีส่วนร่วมพัวพันกับการพนันกีฬาที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ รวมกว่า 20 คดี   เขาถูกไล่ออกจากทีมและไม่ได้เล่นฟุตบอลอีก 

สามปีถัดมาเขาล้มละลาย  และต้องเข้ารับการรักษาอาการติดพนัน แต่ก็ไปไม่รอด และถูกคุมขังเมื่อถูกจับได้ว่ามีส่วนพัวพันกับการฟอกเงิน และขโมยบัตรเครดิตของคนในครอบครัวเพื่อนำไปเล่นพนัน  

เรื่องของ Art Schlichter   สะท้อนให้เห็นความสลับซับซ้อนและผลที่ร้ายแรงของการติดพนัน

 

  1. Paul Hornung (นักอเมริกันฟุตบอล)

อดีตผู้เล่นสารพัดประโยชน์จากทีม Green Bay Packers ที่เล่นได้หลายตำแหน่ง ร่วมคว้าแชมป์ NFL ถึง 4 สมัย    แต่ก็ประสบปัญหาติดการพนัน   เขาถูกแบนหลังจากถูกตรวจพบว่าได้เล่นพนันในเกม NFL กว่า 500 ดอลลาร์     หลังจากหายจากอาการติดพนันแล้วเขาจึงถูกชวนกลับเข้าสู่วงการ โดยสัญญาว่าจะไม่เข้าใกล้สถานกาสิโนอีกต่อไป

 

  1. Alex Rodriguez (นักเบสบอล)

เป็นที่รู้จักในฐานะนักเบสบอลผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล  เขาตีได้ถึง 696 โฮมรัน และตีลูกได้ทั้งหมดกว่า 3,000 ครั้งตลอดอาชีพ     รอดริเกวซถูกจับข้อหาใช้ยาเสพติดในช่วงที่มีปัญหาจากการพนัน  และไม่ยอมจ่ายหนี้ที่เกิดจากการเล่นโป๊กเกอร์กว่า 500,00 ดอลลาร์   

เช่นเดียวกับนักกีฬาชื่อดังหลายคน  รอดริเกวซไม่ยอมรับการบำบัดอาการติดพนัน   แต่สุดท้ายเขาต้องเขารับการบำบัดอาการติดยาเสพติดแทน 

 

  1. Jaromir Jack (นักฮ๊อกกี้)

เขาเป็นนักฮ๊อกกี้ที่ผ่านการเล่นมากับหลายทีม เป็นผู้ทำสกอร์สูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของ NHL   เขาประสบปัญหาหนี้สินจากการเล่นพนันออนไลน์ 950,000 ดอลลาร์ และถูกเจ้าของเว็บพนันฟ้อง  นอกจากนี้ยังมีปัญหาการเลี่ยงภาษีกว่า 6 ล้านดอลลาร์   

โชคดีที่เขาก้าวข้ามปัญหาการพนันของเขามาสู่การใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้

 

  1. Michael Vick (นักอเมริกันฟุตบอล)

เขาเป็นกรณีตัวอย่างของนักกีฬาที่เข้าไปพัวพันกับการพนันแข่งสุนัขต่อสู้  และทรมานสัตว์จนตายกว่า 9 คดี และถูกจำคุกเป็นเวลา 2 ปี  

 

  1. Denny Mclain (นักเบสบอล)

ชีวิตนักกีฬาของเขาจบลงโดยเร็วเมื่อเข้าไปติดการพนันม้าแข่ง และกระทำผิดกฎหมาย   หลังจากนั้นเขาเข้าไปพัวพันกับโคเคน และถูกจำคุกถึง 23 ปี   หลังจากพ้นโทษเขาถูกจับในข้อหาขโมยเงินหลายล้านดอลลาร์  และมีชีวิตที่วุ่นวายตลอดหลังอาชีพนักกีฬา

 

  1. Phil Mickelson (นักกอล์ฟ)

นักกอล์ฟระดับโลก ผู้คว้าแชมป์รายการใหญ่ 6 ครั้ง  ยอมรับว่าตัวเองติดพนัน  

มิกเคลสันไม่ได้ประสบปัญหาเรื่องการเงินจากการพนัน แต่ประสบปัญหาครอบครัว   “มันเหมือนกับว่า ในขณะที่กำลังเกิดพายุเฮริเคนขนาดใหญ่อยู่ข้างนอก แต่ผมกลับไม่รับรู้อะไรเลย มารู้ตัวอีกทีก็เกิดความสูญเสีย ที่ไม่อาจจะย้อนกลับไปแก้ไขได้”   

 

เหตุใดนักกีฬาจึงมีความอ่อนไหวต่อการพนัน 

  • นักพนันกับนักกีฬา ถูกขับดันด้วยแรงจูงใจที่คล้ายกัน 2 ตัว คือ การแข่งขัน และการได้รับรางวัล
  • ธรรมชาติของนักกีฬามักจะจดจ่ออย่างต่อเนื่องกับการแข่งขัน การพนันช่วยตอบสนองความต้องการนี้ นักกีฬาต้องการรักษาความรู้สึกพลุ่งพล่านของอะดรีนาลีนที่เกิดขึ้นจากการแข่งขัน
  • นักกีฬามักชอบการพนันประเภทที่เกี่ยวกับการใช้ทักษะฝีมือ ด้วยความรู้สึกท้าทายและอยากเอาชนะ
  • การพนันของนักกีฬามักเกี่ยวข้องกับ “ความคิด” (mindset) ว่า เขาสามารถควบคุมสถานการณ์ที่จะนำไปสู่ชัยชนะได้
  • ด้วยธรรมชาติของนักกีฬาที่ไม่ชอบการพ่ายแพ้ เมื่อเล่นพนันจึงรับไม่ได้กับความรู้สึกผิดและอับอายที่สูญเสียเงิน นั่นคือจุดเริ่มต้นเข้าสู่วงจรปัญหาของการพนัน  ลับๆล่อ ปิดบังความลับ และเสียหนักขึ้น
  • สำหรับนักกีฬา การพนันคืออีกโอกาสหนึ่งที่แสดงถึงความเป็นสุดยอดฝีมือ
  • นักกีฬาอาชีพมักประสบปัญหาการพนัน เมื่อเส้นทางการเป็นนักกีฬาอาชีพของเขาใกล้จบลง
  • นักกีฬาที่เลิกอาชีพแล้ว มีโอกาสกลายเป็นผู้เสพติดพนันได้ง่าย เพราะไม่มีสนามการแข่งขันให้ตอบสนองความกระหายใคร่ชนะ จึงมักหันไปหาการพนัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพนันกีฬา
  • ในบางกรณี นักกีฬาอาวุโสอาจมีปัญหาการเงินหลังจากเลิกอาชีพนักกีฬา และหันมาหวังหารายได้จากการพนัน

 

สาเหตุที่ทำให้นักกีฬาอ่อนไหวต่อการพนัน

การพนันเป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬา เพราะช่วยตอบสนองความรู้สึกชอบแข่งขัน  ความมุ่งมั่น และมีพลัง แต่การอยากชนะไม่สิ้นสุด อาจนำไปสู่การติดพนันของผู้ไม่ยอมรับการพ่ายแพ้ 

สาเหตุด้านบุคลิกภาพ

o เป็นพวก “บ้าพลัง” มุ่งมั่นสูง

o เป็นพวกกระหายรางวัล

o เป็นพวกจริงจังกับการเอาชนะ

o เป็นพวกไม่ยอมรับการพ่ายแพ้

o เป็นคนมองโลกในแง่ร้าย

o เป็นพวกบ้าความสมบูรณ์แบบ (perfectionist)

 

สาเหตุด้านสภาพแวดล้อมทางสังคม

o อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เห็นว่า การเล่นพนันเป็นสิ่งปกติ

o มีเพื่อนนักกีฬาเล่นพนัน

o เห็นโฆษณาหรือเห็นการเป็นสปอนเซอร์ของธุรกิจพนันเป็นประจำ

 

สาเหตุอื่น ๆ

o การมีสถานะทางสังคมที่โดดเด่น

o มีเวลาว่าง

o มีรายได้สูง

 

สัญญาณการมีปัญหาพนันของนักกีฬา

นักกีฬาบางคนอาจเริ่มด้วยการเล่นพนันสนุก ๆ เพื่อแสดงทักษะและความรอบรู้อวดเพื่อน ๆ แล้วสูญเสียการควบคุมจนเกิดผลทางลบต่ออาชีพนักกีฬาและชีวิตส่วนตัว  แต่ก็พยายามจะซ่อนเร้นอาการติดพนัน

o รู้สึกผิดต่อการเล่นพนันของตนเอง แต่ก็วนเวียนกับความล้มเหลวกับความพยายามเลิกเล่นพนัน

o ต้องการเล่นพนันด้วยจำนวนเงินที่มากขึ้น เพื่อให้ได้ความรู้สึกเท่าเดิม

o หมกมุ่นกับการพนันจนขาดการซ้อม ไม่มาแข่งขัน หรือไม่เข้าร่วมงานสำคัญ แม้กระทั่งธุระส่วนตัว

o วนเวียนอยู่กับความคิดว่าเมื่อไรจะได้เล่นพนัน หรือจะได้เงินจากการพนัน

o นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายหากไม่ได้เล่นพนัน

o เลือกการเล่นพนันเป็นทางออกเมื่อเจอปัญหา

o มีอาการเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า หรือปัญหาสุขภาพจิตรวมถึงสุขภาพกายจากการพนัน

o มีปัญหาเรื่องการเงิน หยิบยืมเงินจากคนใกล้ตัว หรือมีปัญหาหนี้สิน

o มีอาการปิดบังที่มาที่ไปของเงิน

 

เทศกาลกีฬาขนาดใหญ่ ทำให้คนเล่นพนันเพิ่ม

Delamere หน่วยงานด้านการช่วยเหลือผู้ติดพนันในสหรัฐอเมริกา รายงานสถิติที่น่าสนใจว่า

  • 24% ของนักพนันในสหราชอาณาจักร ยอมรับว่าเล่นพนันเพิ่มขึ้น ในช่วงฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
  • The American Gaming Association รายงานว่า ในเกมชิงแชมป์อเมริกันฟุตบอล SUPER BOWL 2020 มียอดเงินพนันสูงถึง 7 พันล้านดอลลาร์ จากจำนวนผู้ชมการถ่ายทอดสดทั้งสิ้นกว่า 100 ล้านคน
  • ที่มากกว่าคือ ในการแข่งขัยฟุตบอล UEFA Champions League ที่มียอดแทงพนันสูงถึง 13,000 ล้านดอลลาร์
  • เช่นเดียวกับการแข่งขันคริ๊กเก็ตชิงแชมป์โลก (Cricket World Cup) ในแต่ละครั้ง จะมียอดการแทงพนันสูงถึง 71 ล้านปอนด์เฉพาะในสหราชอาณาจักร และรายการรักบี้ชิงแชมป์โลก (Rugby World Cup) ก็พบปรากฎการณ์ในลักษณะเดียวกัน
  • ทั้งหลายทั้งปวงมีสวนเกี่ยวข้องกับการโฆษณา และการเป็นสปอนเซอร์ของธุรกิจพนัน ที่มีส่วนในการเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่การติดพนัน ในการชมการถ่ายทอดสดคริ๊กเก็ตและรักบี้ทางโทรทัศน์ ผู้ชมจะได้เห็นโลโก้หรือโฆษณาของบริษัทรับแทงพนัน เฉลี่ยกว่า 300 ครั้ง ยิ่งเกมสูสียิ่งทำให้การเล่นพนันสูงขึ้นตามไปด้วย

 

เทศกาลฟุตบอล เพิ่มนักพนันฟุตบอล

  • ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รายงานว่า ในปี 2564 มีคนไทยราว 3.831 ล้านคนพนันทายผลฟุตบอล เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ราว 10% โดยมีนักพนันฟุตบอลหน้าใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี ราว ๆ ปีละ 2 แสนคน
  • 1 ใน 4 ของนักพนันฟุตบอลเป็นเด็กเยาวชน เกือบ 3 ใน 4 เป็นกลุ่มคนวัยทำงาน ที่เหลือเป็นผู้สูงอายุ
  • สัดส่วนของนักพนันฟุตบอล เพศหญิง : เพศชาย อยู่ที่ 1:4
  • ในเทศกาลฟุตบอลขนาดใหญ่ เช่น ฟุตบอลโลก และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปจะมี “นักพนันหน้าใหม่” เพิ่มขึ้นราว 2 ล้านคน ในจำนวนนี้ 25% จะตกค้างเป็นนักพนันต่อเนื่อง หลังเทศกาลจบลง

 

“นักศึกษากีฬาเสี่ยงติดพนัน”

  • สมาคมกีฬาระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (National College Athletic Association : NCAA) ของสหรัฐอเมริกา รายงานว่า นักศึกษากีฬาโดยส่วนมากเล่นพนัน 60% พนันทายผลกีฬา 4% เล่นพนันทุกวัน  6% ยอมรับว่าเสียเงินไปกับการพนันมากกว่า 500 ดอลลาร์ในหนึ่งวัน
  • สัดส่วนของนักศึกษากีฬาเปรียบเทียบกับนักศึกษาอื่น ๆ ที่เล่นพนันจนเป็นปัญหา คิดเป็น 12.4 : 7.3 และ 6.2% ของนศ.กีฬาติดการพนัน
  • การพนันเริ่มสร้างปัญหาให้กับนักศึกษากีฬา เมื่อเขาเล่นพนันทายผลกีฬา
  • ปี 2005 งานวิจัยในสหรัฐอเมริกา พบว่า 15% ของนักศึกษากีฬาเข้าข่ายมีปัญหาการพนัน เพราะ

o เริ่มเล่นพนันตั้งแต่อายุน้อย

o เล่นพนันเป็นประจำ

o มีเพื่อนหรือคนในครอบครัวมีปัญหาจากการพนัน

o ชอบเล่นพนันเกี่ยวกับเกมที่ต้องใช้ทักษะ

o มีทัศนคติเชิงบวกกับการพนัน และการพนันออนไลน์

 

“ยิ่งนักกีฬาเริ่มเล่นพนันตั้งแต่อายุน้อยมากเท่าไร ยิ่งมีโอกาสติดพนันตอนเป็นนักกีฬาอาชีพมากเท่านั้น”